วันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลา 07.00 น นางสาววชิราพรรณ อาษาพันธ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานอธิการบดี พร้อมด้วยนางสาวเวิน ก่าวถิฮ่อง นักวิชาการศึกษา งานวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร กองกลาง (กองบริหารงานทั่วไป) สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป ในงานรำลึก 60 ปี หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์คราวย้ายกลับปิตุภูมิ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน ที่บริเวณหอนาฬิกาอนุสรณ์ไทย-เวียดนาม ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

นายศิวรัตน์ ตันติพิพัฒกุลชัย นายกสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนม เมื่อคราวย้ายกลับปิตุภูมิประเทศเวียดนาม ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2503 มีความสูงประมาณ 50 เมตร เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนครพนม ที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนมักจะไม่พลาดที่จะต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันตรงจุดนี้ ทั้งนี้ได้หารือกับนายวิศรุต จินธนะเสถียร นายกสมาคมชาวเวีดนามแห่งประเทศไทย และนายนิวัต เจียวิรยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ซึ่งมีความเห็นพ้องตรงกันจึงได้กำหนดจัดงานรำลึก 60 ปี หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์คราวย้ายกลับปิตุภูมิ ในวันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2563 โดยช่วงเช้ามีพิธีตักบาตรและถวายสังฆทานพระสงฆ์ 9 รูป ภาคเย็นท่านฟาน จี๋ แถ่ง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ประจำประเทศไทย เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและอวยพร โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเปิดงาน พร้อมร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมชาวเวียดนาม ซึ่งผู้มาร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และปฎิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ประวัติของหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์คราวย้ายกลับปิตุภูมิแห่งนี้ เป็นเหมือนการขอบคุณคนไทยของชาวเวียดนาม ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อครั้งนักล่าอาณานิคมฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู ดังนั้นชาวเวียดนามที่ขอลี้ภัยภายใต้พระบรมโพธิสมภารในนครพนม ได้ร่วมกันสร้างหอนาฬิกาขึ้นเพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทยไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้เสมอมา ตัวอาคารหอนาฬิกา ออกแบบและก่อสร้างโดยชาวเวียดนาม ซึ่งสมัยนั้นมีฝีมือและเชี่ยวชาญในการก่อสร้างมาก

กล่าวคือราวปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) ฝรั่งเศสโจมตีลาวใต้เพื่อกลับเข้ามาปกครองลาวอีกครั้ง และเคลื่อนทัพขึ้นมาถึงลาวกลาง โดยวันที่ 21 มีนาคม ถูกบุกโจมตีเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขตเทศบาลเมืองนครพนม ในเหตุการณ์ครั้งนี้ผู้คนสองฝั่งโขงเรียกว่า “วันท่าแขกแตก” (The battle of Thakhek; ThàKhẹt bị thất thủ) จึงมีชาวเวียดนามจำนวนมากอพยพข้ามฝั่งแม่น้ำโขงมาอาศัยอยู่ในเมืองนครพนม

ภาพ/ข่าว : งานวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร กองกลาง (กองบริหารงานทั่วไป) สำนักงานอธิการบดี 

อัลบั้มภาพข่าวทั้งหมด : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=npufamily&set=a.764604270931621