วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ณ ห้องแพงพนม ชั้น 4 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ตัวแทนกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยนครพนม เข้าพบผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยประเด็นที่กลุ่มนักศึกษาเข้าหารือเป็นเรื่องของแนวทางการปรับลดค่าธรรมธรรมเนียมการศึกษา และการชำระค่าปรับในกรณีที่จ่ายล่าช้า ซึ่ง รศ.ดร.ทัศนา ประสานตรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมหาวิทยาลัยทราบดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ ทุกส่วนได้รับกระทบ เรื่องใดที่กระทบกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือและพิจารณากับทีมผู้บริหาร เพื่อให้สอดคล้องและเกิดความเหมาะสมภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนการชำระค่าปรับในกรณีจ่ายค่าธรรมเนียมล่าช้านั้น ทางมหาวิทยาลัยกำลังพูดคุยกันอยู่ อาจจะขยายเวลาการชำระผ่านระบบออนไลน์ให้กับนักศึกษาออกไปอีก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษา ส่วนประเด็นเรื่องการจ่ายเงินล่าช้าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในส่วนนี้เป็นไปตามระบบและขั้นตอน ซึ่งหากนักศึกษามีข้อสงสัยสามารถสอบถามไปยังกองพัฒนานักศึกษาโดยตรง /รศ.ดร.ทัศนา กล่าว.

สำหรับเรื่องการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (สีเขียว) ในมหาวิทยาลัยนั้น ตัวแทนของนักศึกษา กล่าวว่า นักศึกษาไม่มีแนวคิดที่จะคัดค้านการจัดตั้ง เพียงอยากให้ผู้บริหารได้ชี้แจงรายละเอียดกับทางนักศึกษาและประชาชนใกล้เคียง ให้ทราบถึงแนวทางและมาตรการของการบริหารจัดการเพื่อความปลอดภัยร่วมกัน แต่เมื่อทราบเหตุผล และความจำเป็นในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตามหลักมนุษยธรรม รวมถึงข้อจำกัดที่ต้องเร่งดำเนินการให้สัมพันธ์กับจำนวนประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนม อีกทั้งผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความไม่เพียงพอของเตียงในโรงพยาบาล และความชัดเจนในการกำหนดขอบเขตพื้นที่เข้า-ออกสำหรับนักศึกษา นักศึกษาจึงมีความยินดีในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ มหาวิทยาลัยนครพนม และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัย ในการเป็นจิตอาสาสนับสนุนกิจกรรมทางสังคม

ด้าน รศ.ดร.ทัศนา ประสานตรี กล่าวต่ออีกว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานศึกษาเป็นนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้ทุกมหาวิทยาลัยเปิดโรงพยาบาลสนามสนับสนุนโรงพยาบาลหลักของจังหวัด อีกทั้งการเปิดโรงพยาบาลสนามถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เป็นเรื่องของมนุษยธรรม เราเป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม การสนับสนุนโรงพยาบาลสนามจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำร่วมกับจังหวัด ซึ่งการบริหารจัดการต่าง ๆ ทางสาธารณสุขได้เข้ามาประเมินแล้วพบว่ามีความปลอดภัย อีกทั้งเป็นอาคารที่ยังไม่มีการใช้งาน จึงไม่กระทบกับการเรียนการสอน และการบริหารจัดการเป็นไปตามหลักของระบบสาธารณสุข อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยก็ขอขอบคุณพลังกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ แม้ว่าทางจังหวัดได้แจ้งยกเลิกการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่มหาวิทยาลัยไปแล้ว แต่ทางมหาวิทยาลัยนครพนมยังมีความยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมในส่วนอื่น เช่น จิตอาสา สถานที่กักตัว (Organizational Quarantine : OQ) และอื่น ๆ กับทางจังหวัดต่อไป /รศ.ดร.ทัศนา กล่าว.

ข่าว : งานสื่อสารองค์กร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม